เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) คือการจําลองสภาพแวดล้อมในโลกแห่งความจริงที่สร้างขึ้นโดยคอมพิวเตอร์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับวัตถุเสมือนจริงในโลกแห่งความเป็นจริงได้ เทคโนโลยี AR ช่วยยกระดับโลกทางกายภาพด้วยข้อมูลดิจิทัล เช่น รูปภาพ วิดีโอ และโมเดล 3 มิติ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ชวนดื่มด่ำ
AR มีการใช้งานที่หลากหลายในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงการค้าปลีก, เกม, การศึกษา, และความบันเทิง ในร้านค้าปลีก เทคโนโลยี AR สามารถใช้สร้างห้องลองเสื้อผ้าเสมือนจริงได้ ทําให้ลูกค้าสามารถลองเสื้อผ้าได้เสมือนจริง ในการเล่นเกม สามารถใช้ AR เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้นโดยการซ้อนองค์ประกอบดิจิทัลเข้ากับโลกแห่งความจริง ในด้านการศึกษา สามารถใช้ AR เพื่อปรับปรุงการเรียนรู้โดยทําให้มีการโต้ตอบและมีส่วนร่วมมากขึ้น ในด้านความบันเทิง สามารถใช้ AR เพื่อสร้างประสบการณ์คอนเสิร์ตเสมือนจริง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสการแสดงสดจากบ้านของตนเองได้อย่างสะดวกสบาย
เมื่อพูดถึงบรรจุภัณฑ์ สามารถใช้ AR เพื่อเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าโดยการเพิ่มองค์ประกอบเชิงโต้ตอบลงในบรรจุภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคสามารถใช้สมาร์ทโฟนสแกนบรรจุภัณฑ์และเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เช่น ข้อมูลจําเพาะของผลิตภัณฑ์ คําแนะนําในการใช้งาน และวิดีโอส่งเสริมการขาย สิ่งนี้ไม่เพียงเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ แต่ยังช่วยเพิ่มประสบการณ์โดยรวมของลูกค้าด้วย
โดยสรุป เทคโนโลยี AR มีศักยภาพในการปฏิวัติวิธีที่เราโต้ตอบกับโลกและผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ มันนําเสนอโอกาสใหม่และน่าตื่นเต้นสําหรับธุรกิจและผู้บริโภค และการใช้งานที่เป็นไปได้นั้นไร้ขีดจํากัดอย่างแท้จริง
ตัวอย่างการนําเทคโนโลยี AR มาประยุกต์ใช้กับบรรจุภัณฑ์:
จินตนาการว่าคุณกําลังเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟเครื่องใหม่ คุณพบสิ่งที่คุณชอบรูปลักษณ์ แต่คุณไม่แน่ใจว่ามีคุณสมบัติทั้งหมดที่คุณต้องการหรือไม่ ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่เปิดใช้งาน AR คุณสามารถใช้สมาร์ทโฟนของคุณ ส่องไปที่บรรจุภัณฑ์ และรุ่นของเครื่องชงกาแฟจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอของคุณ จากนั้นคุณสามารถโต้ตอบกับโมเดล AR หมุนเพื่อดูจากมุมต่างๆ แบบ 360 องศา และเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติและข้อมูลจําเพาะ คุณสามารถดูได้แม้กระทั่งในครัวของคุณ โดยวางโมเดล AR ไว้ในห้องโดยใช้กล้องของสมาร์ทโฟน